ข้อควรพิจารณาการเซ้งร้าน

การเซ้งร้าน หรือเซ้งธุรกิจกิจการต่อถือว่าเป็นวิธีนึงในการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ทั้งหมด หากลองดูดีๆ บางกิจการที่ขายเซ้งนั้นหากรวมอุปกรณ์ต่างๆในการทำงาน และค่าตกแต่งต่างๆมักจะมีราคาที่ถูกลง เมื่อเที่ยบกับตอนที่เริ่มธุรกิจแรกๆ นั่นเพราะหลายๆปัจจัยเช่นเจ้าของเดิมอาจต้องการเงินเพื่อไปทำอย่างอื่นที่จำเป็นกว่าอย่างรีบด่วนหรือไม่มีเวลาดูแลเป็นต้น จึงเป็นโอกาสดีที่เจ้าของใหม่ที่ต้องการเซ้งต่อสามารถซื้อกิจการที่มีต้นทุนถูกกว่าหากลงทุนลงแรงซื้ออุปกรณ์ใช้งานต่างๆหรือตกแต่งร้านออฟฟิสใหม่ด้วยตนเอง หากแต่การจะเซ้งกิจการต่อก็ควรต้องดูหลายๆปัจจัยและความพร้อมของตัวเองด้วย สิ่งที่ควรพิจรณาการเซ้งร้านต่อที่สำคัญๆ มีดังต่อไปนี้
1.ราคาที่เซ้ง
คุณต้องคำนวณราคาให้ดีว่าราคาเซ้งนั้นคุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้มาหรือไม่ รวมถึงสิ่งของอุปกรณ์ต่างๆอยู่ในสภาพที่ใช้งานต่อได้หรือไม่ โดยรวมบวกลบคูณหารแล้วอุปกรณ์และสภาพปัจจุบันของร้านหรือกิจการเหมาะสมกับราคาเซ้งไหม เราพอใจกับราคาหรือไม่ถ้าคิดว่าคุ้มในเบื้องต้นกว่าไปเริ่มต้นเองก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
2. ค่าเช่าและ สัญญาเช่ากับทางเจ้าของที่
ควรสอบถามค่าเช่าและ ตรวจสอบสัญญาให้รอบคอบ เช่น สัญญาเช่าเป็นสัญญาเช่าจากเจ้าของสถานที่จริงๆ หรือว่าเป็นสัญญาเช่าช่วง , ตรวจสอบว่าระยะเวลาการเช่านานเท่าไหร่ , ต่อสัญญาทุกกี่ปี, มีค่าเปลี่ยนสัญญาผู้เซ้งเจ้าใหม่ไหม ถ้าเซ้งแล้วสามารถตกแต่งสถานที่ได้หรือไม่ , ติดป้ายได้ไหมเป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เจ้าของเดิมเท่านั้นที่ตอบได้ดีที่สุด
3. ทำเลของร้านทำเลของกิจการ
ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ธุรกิจต่างๆทำเลจะแตกต่างกันไปเช่นร้านค้าร้านอาหารควรจะอยู่ในทำเลที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมา หากเป็นร้านอาหารใหญ่หน่อยมีที่จอดรถให้ลูกค้าหรือไม่หรือว่าธุรกิจของเราไม่จำเป็นต้องมีก็ได้, ธุรกิจสถาบันกวดวิชาอาจจะไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่คนพลุกพล่านแต่ต้องเดินทางไปมาสะดวกไม่อยู่ในที่เปลี่ยวจนเกินไปเพราะนักเรียนอาจจะเดินทางไปลำบาก ซึ่งทำเลของกิจการเป็นปัจจัยสำคัญอย่างนึงที่เจ้าของธุรกิจจะต้องมีไอเดียในใจว่าธุรกิจตัวเองเหมาะกับทำเลแบบใด
4. กรณีที่ธุรกิจต้องมีพนักงานของร้าน
จะใช้พนักงานเดิมหรือว่าเราต้องหาพนักงานใหม่ บางกิจการพนักงานมีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างมาก เช่น ร้านอาหารจะขายได้ดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของแม่ครัว , ในกรณีร้านนวดไทย ลูกค้าบางคนก็ติดหมอมากกว่าติดร้าน ถ้าคุณเซ้งกิจการต่อจากคนอื่น คุณควรพิจารณาให้รอบคอบว่าจะใช้พนักงานของตัวเองหรือว่าจะจ้างพนักงานชุดเดิม (กรณีเจ้าของเดิมไม่พาพนักงานไปที่อื่นด้วย) ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
ข้อควรระวังการเซ้งร้าน
5. การประเมินรายได้ปัจจุบันของร้าน
ข้อนี้จริงๆสามารถสอบถามเบื้องต้นกับเจ้าของเดิมได้ แต่จะได้ความจริงหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึงเพราะคนจะขายส่วนมากก็จะต้องบอกว่าดีมีลูกค้าเยอะขายได้ต่อวันเท่านี้ ๆ ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถดูคร่าวๆได้จาก ลูกค้าที่เดินผ่านไปมาว่ามีเยอะไหม, ของใช้ที่สต๊อกของเจ้าของเดิมเหลือเยอะไหม หรืออาจจะคอยมีสังเกตทำเลแถวนั้นทั้งเช้าและเย็นว่ามีบรรยากาศลูกค้าเป็นอย่างไรบ้าง การประเมินรายได้รายรับย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าของใหม่ด้วยว่าเป็นอย่างไร บางเคสบ้างร้านเจ้าของเก่าขายไม่ดีเลยแต่กลับกันได้เจ้าของใหม่มาโปรโมทเก่งหาลูกค้าเข้าร้านเก่งรวยไปหลายรายก็มี ให้เห็นเยอะไป
6. เหตุผลที่เซ้งร้าน
จริงๆข้อนี้ไม่อยากให้คิดว่าสำคัญเท่าไหร่ เพราะว่าเหตุผลที่ต้องการเซ้งขายกิจการเดิมสามารถหาเหตุผลได้ร้อยแปดประการ ซึ่งอาจจะจริงบ้างไม่จริงบ้าง โดยรวมแล้วลองคิดว่าเป็นตัวเองดูถ้าไม่อยากทำธุรกิจต่อไปแล้วเหตุผลใหญ่ๆ ก็คือมันไม่เวิร์กสำหรับคุณ อาจจะยอดขายไม่ได้ตามที่ต้องการบ้าง, หาลูกน้องยากบ้าง, เงินหมุนไม่พอบ้าง เป็นต้น แต่เหตุผลที่ไม่เวิร์กสำหรับเจ้าของเดิม อาจจะไม่ใช่เหตุผลของเจ้าของใหม่ที่ไฟแรงอยากดำเนินกิจการต่อไม่ว่าอะไรก็พร้อมจะจัดการแก้ไขปัญหาได้ เพราะฉนั้นเวลาเซ้งก็แค่ถามไปเบาๆว่า ทำไมเซ้งละค๊ะ แค่นั้นก็พอไม่ต้องไปซีเรียสมากให้ดูจากปัจจัยอื่นๆดีกว่าว่าสมควรที่จะเซ้งไปทำเองต่อหรือไม่

วิธีการโพสเซ้งกิจการปล่อยได้เร็ว

วิธีการโพสเซ้งกิจการปล่อยได้เร็ว

หลายท่านอยากเซ้งกิจการหรือเซ้งร้านให้ได้โดยเร็ว อาจจะมีเหตุผลต่างๆเช่นไม่มีเวลาดูแลกิจการ, ต้องการเปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่น, ต้องไปต่างประเทศ จึงทำให้ไม่สามารถดูแลธุรกิจต่อไปได้และต้องการปล่อยกิจการธุรกิจนั้นโดยเร็ว แม้ว่าจะพยายามทำการโปรโมท หรือโพสเซ้งร้านไปหลายเว็บแล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีคนสนใจเซ้งติดต่อมา อาจจะมีหลายปัจจัยในการลงโฆษณาของท่านที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ซึ่งบางทีอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับตัวร้านหรือธุรกิจที่ต้องการเซ้งแต่อาจจะเกี่ยวกับเทคนิคการลงโพสโฆษณาของท่านอาจจะยังมีข้อมูลที่ไม่โดนใจ หรือดูแล้วไม่น่าสนใจนั่นเอง

หากใครที่อยากเซ้งร้านขายกิจได้อย่างรวดเร็วลองมีดูเทคนิคดีๆไปปรับใช้กันดีกว่า

1.รูปภาพ        
เหมือนกับการขายสินค้าออนไลน์เลยที่สำคัญจะต้องมีรูปภาพที่เห็นร้านหรือกิจการชัดเจน ควรลงภาพขั้นต่ำซัก4-5ภาพเพื่อให้มองเห็นได้หลายๆมุม เก็บสิ่งของวางให้สวยงามก่อนถ่ายภาพอย่าปล่อยให้ดูรกเกะกะมันจะทำให้อิมเมจร้านดูไม่ดี หากถ่ายภาพหน้าร้านกว้างๆด้วยได้จะดีมากเพราะจะทำให้เห็นทำเลหน้าร้านย่อมๆว่าดีไหม หากทำเลไม่ดีก็ไม่ควรลงครับ เพราะลูกค้าจะตัดสินใจแว่บแรกจากรูปภาพ

2.รายละเอียดการเซ้ง  
ไม่ควรเขียนสั้นจนเกินไปหรือยาวจนเกินไป ควรเขียนข้อมูลให้กระชับ อ่านพอดีๆ สิ่งที่ควรบอกหลักๆมี 1. เซ้งร้านเซ้งกิจการอะไร 2. สิ่งของชิ้นใหญ่ๆที่ให้ 3. ทำเลที่ตั้งอยู่ที่ไหน 4. ค่่าเช่าต่อเดือนเท่าไหร่ติดสัญญาเช่ากี่ปี 5. ข้อมูลช่องทางการติดต่อผู้ขายเช่นเบอร์โทร อีเมล์ 6. เหตุผลในการเซ้ง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นถึงกับต้องบอกหมดทุกข้อ แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคนด้วยเช่น ค่าเช่าจริงๆอาจจะแพงถ้าหากโพสลงไปคนเห็นก็อาจจะทำให้ไม่ต้องการเซ้งต่อเป็นต้น อันนี้ต้องใช้วิจรณญานให้ดี เพราะบางทีหากเราโทรคุยเพื่ออธิบายให้ลูกค้าฟังอาจจะดีกว่าที่ให้เห็นข้อมูลก่อน ถ้าหากคิดว่าเขียนแล้วไม่มีผลอะไรแต่เป็นจุดเด่นเพิ่มความน่าสนใจก็ควรลงไปเลย

3.โพสผิดหมวดโพสผิดที่  
หลายครั้งที่บางทีผู้ที่ต้องการเซ้งอาจจะรีบโพสในเว็บหรือในโซเชียล โดยลงผิดหมวดธุรกิจของเราเช่น ร้านเสริมสวยร้านทำผมแต่กับไปโพสในหมวดหมู่ร้านค้าธรรมดา เวลาคนที่สนใจอยากจะซื้อกิจการมักจะใช้การเสริชค้นหาข้อมูลในเว็บนั้นๆ เนื่องจากมีโพสมากมายจนไม่สามารถไล่ดูได้หมด ดังนั้นหากเราโพสผิดที่เท่ากับตัดโอกาสที่คนต้องการซื้อกิจการเราไม่เห็นโพสของเรานั่นเอง

4. ลงโพสโฆษณาน้อยเกินไป        
บางครั้งหลายคนคิดว่าแค่ลงโพสโฆษณาอันเดียวในเว็บ หรือโพสไว้ในเพจหรือกรุ๊ปเฟซบุ๊ก ก็น่าจะมีคนติดต่อขอเซ้งแล้ว ซึ่งจริงๆไม่ต่างกับเราขายของออนไลน์เลยครับ ยิ่งโพสเยอะคนยิ่งเห็นเยอะโอกาสที่คนจะติดต่อมายิ่งมีมากกว่าไปลงไว้ที่เดียวอย่างแน่นอน แต่เข้าใจได้ว่าเจ้าของธุรกิจส่วนมากไม่ค่อยมีเวลาที่จะมานั่งโพสออนไลน์แถมยังต้องสมัครเพื่อโพสเองให้ยุ่งยาก ตรงนี้แก้ปัญหาเรือ่งการเสียเวลาโดยใช้บริการรับจ้างโพสหรือฝากเว็บไซต์หรือเพจที่มีความขำนาญในด้านการโปรโมทดีกว่าครับเสียเงินนิดหน่อยแต่ได้ผลเยอะเอาเวลาไปคิดธุรกิจใหม่ๆดีกว่าครับ   หากสนใจบริการwww.bis4sell.com ติดต่อadmin ได้เลยครับ https://www.facebook.com/bis4sell

เซ้งร้าน

5. กิจการธุรกิจหรือร้านที่จะเซ้งนั้นไม่น่าสนใจจริงๆ  
อันนี้อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่เราได้เริ่มธุรกิจไว้ในตอนแรกหากไม่เวิร์กแล้วต้องการจะเซ้งแต่โปรโมททั้งออฟไลน์ออนไลน์เท่าไหร่ก็ไม่มีใครสนใจซักที ซึ่งอาจมี หลายปัจจัยที่ทำให้ไม่มีใครสนใจเลยเหมือนกับที่ตัวเจ้าของเองก็รู้เช่น ทำเลแย่จริงๆ เช่นร้านขายเสื้อผ้าแต่ไปตั้งลึกสุดซอยไม่มีคนเดินผ่าน บางธุรกิจเรื่องทำเลสำคัญสุดๆ ถ้าจะเซ้งก็คงจะยากหน่อยครับ หรือปัจจัยเรื่องคู่แข่งเช่นจะร้านขายยาในย่านนั้นแต่ย่านนั้นมีร้านขายยาเรียงกันเป็นตับคู่แข่งเยอะก็อาจจะทำให้คนไม่กล้าที่จะเซ้งไปทำต่อก็ได้ครับ ถ้าสุดท้ายแล้วเซ้งไม่ได้จริงๆ อย่างแรกที่แนะนำคือให้ลองแยกชิ้นส่วนขายครับ พูดง่ายๆคือเซ้งแต่อุปกรณ์ออกไปก่อนขายถูกหน่อยครับถ้าต่อไปเราไม่ได้ใช้อุปกรณ์ทำกินเล่านั้นแล้วราคาไม่แพงอย่างไรคนก็ต้องซื้อไปใช้ครับ แล้วทีนี้เหลือตัวร้านถ้าติดสัญญาอยู่แล้วหาคนเซ้งไม่ได้จริงๆ ก่อนอื่นต้องลองต่อรองกับเจ้าของดูเพื่อขอลดหย่อนค่าเช่าเพราะเราไม่ได้ทำต่อแล้วเป็นต้น เพื่อลดการขาดทุนเข้าเนื้อให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ครับ

6. ตั้งราคาแพงเกินจริง
บางร้านบางกิจการที่อยากจะเซ้งก็ย่อมอยากขายได้ในราคาที่ดีๆโดยอาจจะตั้งราคาสูงเกินไปทำให้คนเห็นราคาแล้วไม่กล้าเซ้งต่อก็มีครับ ถ้าให้ดีแล้วคือควรดูรายการทรัพย์สินอุปกรณ์ในร้านว่าคำนวนแล้วเป็นเงินเท่าไหร่ และประเมินเรื่องลูกค้าหรือทำเล ถ้าหากมีลูกค้ามากทำเลดีๆใครก็อยากได้แบบนี้บวกราคาเพื่อไปได้เลยครับ ถ้าหากตั้งราคาแล้วยังไม่มีคนสนใจติดต่อมาสักพักให้ลองลดราคาดูครับ เพื่อให้สามารถปล่อยกิจการได้เร็วขึ้นครับ

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจอยากเซ้งร้านขายกิจการไม่มากก็น้อยครับ…